การฉีดโบท็อกลดริ้วรอยในปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นวิธีคืนความอ่อนเยาว์ที่เห็นผลเร็วและชัดเจน แต่ก่อนอื่นควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดทั้งข้อดี-ข้อเสีย รีวิวจากผู้ใช้บริการจริงความน่าเชื่อถือของสถานบริการ รวมถึงการดูแลหลังฉีด เพื่อป้องกันอาการหรือปัญหาตามมาภายหลัง อย่างเช่น อาการตาแข็ง หางตาตก หรือการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าแล้วมีอาการแข็งตึงเกินไป และเพื่อให้ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกออกมาสวยเป็นธรรมชาติ หน้าไม่แข็ง ควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้น ดังนี้
- คลินิกที่น่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ ควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน สะอาดปลอดภัย มีอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัย และผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะค่ะ รวมถึงควรศึกษารีวิวจากผู้ที่ใช้บริการจริงจากคลินิคนั้น และควรปรึกษาขอคำแนะนำได้ทั้งก่อนและหลังรับบริการค่ะ
- ความเชี่ยวชาญของแพทย์ หรือแพทย์เฉพาะทางเท่านั้นนะคะ เพราะการฉีดโบท็อกแพทย์ต้องได้รับการเทรนจนสามารถฉีดได้อย่างตรงจุดของโครงสร้างชั้นผิว และแม่นยำในตำแหน่งของปัญหานั้นๆ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพ ดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง เพราะไม่ใช่แพทย์ทุกคนจะสามารถฉีดโบท็อกปรับรูปหน้า หรือลดริ้วรอยได้ทุกคนนะคะ
- ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการฉีดโบท็อก เพื่อประเมินปริมาณและบริเวณที่ควรฉีดค่ะ เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกของใบหน้ามีความเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึงจนเกินไป สามารถแสดงอารมณ์ทางใบหน้าได้ตามปกติค่ะ
- ฉีดโบท็อกลดริ้วรอยกี่วันเห็นผล ?
- หลังจาก ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย โบท็อกจะเริ่มออกฤทธิ์หลังฉีด 3-4 วัน ก็จะเริ่มตึง โบท็อกแท้ตึงเต็มที่ประมาณ 1-2 อาทิตย์ ทั้งใต้ตา หางตา ขมวดคิ้ว หน้าผาก ร่องแก้ม จะตึงเต็มที่ 2 อาทิตย์ และคงอยู่ได้นานประมาณ 4-5 เดือนครับ
- ไม่ควรฉีดถี่หรือบ่อยเกินไปควรเว้นอย่างน้อย 3 เดือน และไม่เว้นระยะห่างเกิน 5-6 เดือนค่ะ เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้ปกติ และอาจจะต้องใช้โบท็อกเยอะขึ้นค่ะ
- การดูแลหลังฉีดโบท็อก ซึ่งควรปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัดค่ะ